1. พลังแห่งอิสตรี
สิ่งสำคัญประการแรกที่จะเพิ่มยอดขายก็คือต้องเข้าใจว่าลูกค้ามีพฤติกรรมในการซื้ออย่างไร ทราบหรือไม่ว่าการจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างนั้น
ผู้หญิงมีส่วนสำคัญมากในการตัดสินใจถึงร้อยละ
60-80 ทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตามห้างสรรพสินค้าที่ใช้กลยุทธ์ลด
แลก
แจก
แถม
ที่ผู้หญิงโปรดปรานนั้นยังใช้ได้ผลเสมอ แต่ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์จะใช้กลยุทธ์ที่ต่างกันเพราะผู้หญิงมีส่วนตัดสินใจเพียงร้อยละ
7 ของผู้ที่มีกำลังซื้อเท่านั้น
2. ประสบการณ์ที่ได้รับสำคัญกว่าราคาสินค้า
การให้บริการที่ดีและการเพิ่มยอดขายควรจะมาคู่กัน
แต่บางทีก็แยกจากกันเนื่องจากคนที่เป็นเซลล์ไม่ค่อยสนใจ
และ/หรือไม่ช่วยเหลือลูกค้า
คุณควรคิดว่าหากคุณเป็นลูกค้าคุณอยากได้บริการอะไร
อย่างไร
จากนั้นให้ปรับกลยุทธ์ในการให้บริการเสียใหม่ แค่พนักงานพูดจาไม่ดีเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้คุณสูญเสียลูกค้ารายสำคัญไปตลอดกาล
3. ให้ความรู้แก่ลูกค้า
ผู้บริโภคฉลาด ๆ
สมัยนี้มีเยอะ พวกเขาจะเปรียบเทียบคุณภาพกับราคาของสินค้า
ดังนั้นการจะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณดึงดูดใจพวกเขาได้
คุณควรจะมีแหล่งข้อมูลของสินค้าของคุณที่สามารถอ่านได้สะดวก
เช่น
แผ่นพับ
ใบปลิว
วิดีโอ
เว็บไซท์
หรือจัดคอสฝึกอบรมต่าง
ๆ
ให้ลูกค้า
เป็นต้น
4. มีจรรยาบรรณ
ผู้บริโภคมักจะไม่ซื้อสินค้าหากภาพพจน์ของผู้บริหารหรือบริษัทไม่ดี
ดังนั้นคุณควรจะแสดงให้เห็นว่าคุณบริหารธุรกิจแบบมีจรรยาบรรณ
เช่น
การรับประกันคุณภาพของสินค้า
การคืนเงินหากไม่พอใจ
หรือการให้เงินบริจาคกับการกุศลต่าง
ๆ
เป็นต้น
5. สร้างบรรยากาศในร้าน
ข้อควรคำนึงง่าย ๆ
ที่จะตกแต่งร้านก็คือ
“หากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานมากเท่าใด
พวกเค้าก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้นเท่านั้น” การลงทุนใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
จำพวกสื่อภาพและเสียงจะช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาในร้านนานขึ้น
คุณอาจจัดให้มีที่นั่งภายในร้านที่ทั้งผู้หญิงผู้ชายสามารถผ่อนคลาย
เปิดเพลงเพราะ
ๆ
ทันสมัยช่วยด้วย
หรือจะเพิ่มความสดชื่นในอากาศด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ
ก็มีส่วนเสริมเช่นกัน
6. คุยกับลูกค้า
ถึงแม้สังคมไทยจะเป็นสังคมที่คนไม่ค่อยพูดและขี้เกรงใจ
แต่คุณยังสามารถนำวิธีการพูดคุยทักทายกับลูกค้ามาช่วยเพิ่มการขายได้
ให้ลูกค้าได้ซักถามเรื่องต่าง
ๆ
เป็นการเพิ่มยอดขายและช่วยให้ลูกค้าประทับใจกลับมาซื้อซ้ำหรือไม่ไปซื้อจากที่อื่น
เห็นง่าย
ๆ
ในร้านบางร้านที่ให้พนักงานพูดเสียงดังเป็นระยะว่า
“สอบถามได้นะค้า/คร้าบ”
7. การจัดวางสินค้า
คนส่วนมากจะถนัดด้านขวา เมื่อเดินเข้าร้านก็จะเดินชิดขวาและมองไปทางขวาก่อน
ดังนั้นคุณควรจะจัดวางสินค้าที่ขายดีหรือต้องการโปรโมทไว้ทางด้านขวา
หากคุณวางไว้ทางซ้าย
ก็มีแนวโน้มว่าลูกค้าจะเดินผ่านไปและกลับมาโดยไม่มองอีกเลย
8. การซื้อของเป็นเรื่องของอารมณ์ 
ผู้บริโภคหลายรายหาซื้อของอย่างมีจุดหมาย
หากคุณขายสินค้าที่เกี่ยวกับการให้หรือการใช้ส่วนตัวล่ะก็
คุณต้องสร้างบรรยากาศของร้านให้เข้ากับสินค้าที่ขาย
เช่น
ขายการ์ดอวยพรหรือของขวัญ
ก็ควรใช้บรรยากาศและสีที่อบอุ่น จะทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น
จะเห็นได้ว่าการที่จะ“เป็นมิตรกับลูกค้า”นั้นคือการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มเข้ามาในร้าน
ซึ่งอาจจะแจกสินค้าตัวอย่าง
หรือเอกสารก็ได้
นอกจากนั้นแล้วคุณควรทำแบบสอบถามเพื่อหาข้อเสนอแนะ
ติชมจากลูกค้าทั้งหญิงและชาย
รวมทั้งจากเซลล์ของร้านเอง
เป็นครั้งคราวด้วย
ข้อมูลจาก
http://www.bizexcenter.com/
.png)